คงจะดีกว่า ถ้าหากคุณจะเก็บข้อมูลจากคนรอบข้างหรือผู้ที่มีความรู้ หรือมีประสบการณ์พอจะถ่ายทอดให้กับคุณจนคุณพอมีความรู้พกพาเข้าไปในร้านจิวเวลรี่ และพูดคุยกับเจ้าของร้านอย่างผู้รู้ (อยู่บ้าง) อย่างน้อยๆ     คุณก็จะได้แน่ใจว่า สิ่งที่ผู้ขายบอกคุณนั้น มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็คงไม่เป็นไร ถ้าหากคุณจะลองก้าวเข้าไปในร้านจิวเวลรี่ โดยที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วเริ่มเก็บข้อมูลจากสนามจริงสัก 2-3 ที่ก่อนตัดสินใจ เพียงแต่อยากแนะนำว่า ถ้าหากคุณคิดจะทำเช่นนั้น คุณควรเลือกเข้าไปในร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแพร่หลายเสียหน่อย เพราะนั้นหมายถึงสิ่งที่คุณจะได้ยินจากร้านจิวเวลรี่เหล่านี้มีมาตรฐานกว่าร้านโนเนมทั้งหลาย

“ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปเป็นแนวทางในการเลือกซื้อของสำคัญ ราคาแพงอย่างแหวนหมั้นเพชร”

1.สอบถามราคา และวิธีการพิจารณาดูเพชรแท้

อย่างที่บอกตามข้างต้นรู้ไว้จะดีกว่าถ้าเป็นไปได้ ลองสอบถามผู้รู้ หรือญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท ที่เคย             มีประสบการณ์มาก่อน โดยเฉพาะในเรื่องของราคาเพชรต่อกะรัต หรือวิธีการเลือกดูเพชรว่าลักษณะแบบไหน        ที่เรียกแท้ หรือไม่แท้ เอาเป็นว่าค่อยๆ เลือกกันไป สอบถามจากหลายๆ ร้าน คุณจะสามารถเปรียบเทียบราคาและคุณภาพได้เอง ดีไม่ดี บางทีคุณอาจกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเลือกดูแหวนเพชรไปเลยก็ได้

2.กำหนดงบประมาณ

คุณควรเตรียมเงินไว้จำนวนหนึ่งแยกต่างหากออกจากเงินก้อนที่จะเก็บไว้ใช้จ่ายในการจัดพิธีแต่งงาน    และงานเลี้ยง เพราะราคาแหวนเพชรค่อนข้างมีราคาสูง บางทีอาจเทียบเท่าได้เกินกว่าครึ่งของงบใช้จ่าย เพื่อการ     จัดงานแต่งงานทั้งหมด ซึ่งถ้าคุณไม่วางแผนเอาไว้ให้ดีๆ มีหวังสะดุดปัญหาตอนท้ายแน่ๆ ถ้าหากคุณไม่ต้องการ     ตีค่าความรักของคุณเอาไว้ก่อนและอยากเอาใจแฟนสาวเราขอสนับสนุนให้คุณพาเธอไปเลือกด้วยตัวเองเลย          ไม่เป็นการเสียฟอร์มหรอก ลองคิดดูว่า กว่าคุณสองคนจะประคองรักร่วมกันมาจนถึงวันที่ตกลงใจจะมีชีวิตร่วมกันแล้ว คุณและเธอย่อมรู้ใจ และเห็นใจกันและกันยิ่งไปกว่าความปรารถนาของตัวเอง (โดยเฉพาะในเวลาที่ความรักกำลังหวานหยดย้อยอย่างตอนเตรียมงานแต่งแบบนี้) เชื่อแน่ว่าเธอจะเลือกแหวนหมั้นที่เธอถูกใจที่สุด และเหมาะกับเงินในกระเป๋าของคุณที่สุด เอ้า! ลองดู

3.เลือกแหวนหมั้นให้เข้ากับบุคลิก

แทนที่จะไปพะวงกับราคาแหวนเพชร ซึ่งถึงแม้จะเป็นเรื่องจริงที่ยิ่งแพงก็ยิ่งบ่งบอกถึงรสนิยม แต่คงจะสร้างความปลื้มใจ ซึ้งใจให้กับว่าที่เจ้าสาวของคุณได้มากกว่า ถ้าหากคุณเลือกแหวนหมั้น โดยคำนึงถึงบุคลิก      และรสนิยมของเธอ เพราะนั่นบ่อบอกถึงความพิถีพิถัน และความรู้สึกอันละเอียดอ่อนของคุณที่มีต่อเธอ แถมวิธีนี้ยังอาจทำให้ว่าที่เจ้าสาวของคุณสุขใจแล้ว ยังอาจทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากๆ เพื่อเลือกซื้อแหวนเพชร   ราคาแพงๆ อีกด้วย แหม! คบกันมาตั้งนาน ถ้าไม่รู้ว่าเธอชอบอะไร สไตล์แบบไหน ก็แย่ล่ะนะ

4.แหวนที่ซื้อต้องได้รับมาตรฐาน

ก่อนตัดสินใจซื้อแหวนทั้งที อย่าลืมเรียกดูใบรับรองมาตรฐานอัญมณีของร้านที่ติดมากับตัวสินค้าด้วยเพราะการมีใบรับรองสามารถรับประกันได้ว่า แหวนเพชรที่คุณซื้อเป็นแหวนที่ไม่ได้ทำขึ้น เพื่อนำมาหลอก        ขายกันเฉยๆ แถมคุณต้องคอยสังเกตด้วยว่านอกจากรับรอง หรือใบรับประกันที่ว่าแล้ว ยังมีการระบุเรื่องการรับคืน และแลกเปลี่ยนสินค้าหลังการซื้อขายหรือไม่ รวมถึงการบริการหลังการขายฯลฯ ที่คุณจะต้องตรวจดูให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเอง

5.กำหนดสเป็กของแหวนที่อยากได้

เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา และเพื่อความสะดวกสบายของนักช็อปเพชรพลอยมือสมัครเล่นอย่างคุณ             ขอแนะนำว่าให้คุณกำหนดรูปแบบของแหวนหมั้นที่อยากได้เอาไว้ในใจก่อนออกตระเวนเดินเลือกซื้อตามร้านต่างๆ เพราะถ้าคุณมีสเป็กของแหวนที่อยากได้อยู่ในมือแล้วละก็ การเลือกซื้อแหวนที่ถูกใจและถูกราคา ก็คง         ไม่ยากเกินไปสำหรับคุณเป็นแน่

6.เลือกซื้อแหวน ให้เน้นที่เพชร

เวลาเลือกซื้อแหวน อีกอย่างหนึ่งที่ต้องคอยระวัง คือเรื่องความงามของเพชรบนตัวเรือนก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อทั้งทีอย่าลืมว่าให้พยายามเลือกแหวนที่สามารถตรวจดูเพชรได้ทั้งเม็ด เพราะคุณจะได้เช็กดูว่าเพชรที่เกาะ   อยู่บนตัวเรือนน้ำงามดีจริงหรือเปล่า และอีกอย่างอยากให้คุณตะหนักอยู่เสมอว่าแหวนหมั้นที่คุณเลือกซื้อราคา   ของมันจะตกอยู่ที่ตัวเพชรมากถึง 90% ดังนั้นอยากให้คุณชั่งใจดูให้ดีๆ ก่อนซื้อว่า ถ้าแหวนสองวงราคาเท่ากัน     คุณจะเลือกซื้อแหวนเพราะตัวเรือนที่ดูเก๋ หรือเพราะเพชรที่น้ำงามมากกว่ากัน เพราะตัวเรือนถึงจะดูเก๋ไก๋ล่อตา    คุณให้ซื้อมากแค่ไหน แต่ความคุ้มค่าจะอยู่ที่ตัวเพชรมากกว่า ลองชั่งน้ำหนักดูเอา

7.อย่าลืมพิจารณาองค์ประกอบปลีกย่อย

เมื่อคุณได้รูปแบบของแหวนที่ต้องการแล้ว คราวนี้ขั้นต่อไปคือคุณจะต้องตรวจสอบองค์ประกอบปลีกย่อยของแหวนอีกด้วยว่าเป็นแหวนที่มีจุดบกพร่องอะไรอีกหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ตัวเรือนของแหวนต้องแข็งแรง          ไม่บางเสียจนบิดเบี้ยวได้ง่ายๆ หรือแม้แต่การปั๊มระบุเกรดของโลหะที่เป็นส่วนประกอบของแหวนว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะตัวเรือนที่ทำด้วยทอง จะต้องมีการระบุว่าทองที่ใช้เป็นประเภท 10K 18K หรือ 24K เป็นต้น

8.อย่าลืมต่อราคา

ร้านจิวเวลรี่ไม่ว่าร้านไหนต่อร้านไหน ก็ต้องตั้งราคาสินค้าให้สูงลิบลิ่วเข้าไว้ก่อน ฉะนั้นเมื่อคุณเจอ     แหวนที่ถูกใจเข้า และตัดสินใจจะซื้อแล้วละก็ ขอยอกว่าอย่างเพิ่มรีบควักกระเป๋าจ่ายไม่อย่างนั้นคุณคงต้องเสียรู้ร้านค้าหน้าเลือดพวกนี้อย่างไม่น่าเสียเลยจริงๆ พยายามต่อและกดราคาให้ได้มากที่สุดหรือตรวจสอบราคา          จากหลายๆ ร้านก่อน เพื่อความนาใจว่าคุณไม่ได้ซื้อของเกินราคา แต่คุณภาพไม่ดี

9.ซื้อเพชรต้องมีเกรดระบุ

ปกติแล้วเพชรที่มีคุณภาพอย่างน้อยหนึ่งกะรัตขึ้นไป จะต้องมีการระบุเกรดแนบไว้กับตัวสินค้าด้วยเสมอ หากไม่มี คุณต้องขอเรียกใบรับรองเกรดจากทางร้าน การรับประกันว่าเพชรบนหัวแหวนที่คุณกำหลังจะซื้อไปแบบปากเปล่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก ขอบอกกันไว้ก่อน