เตรียมความพร้อมให้กับชีวิตคู่ของคุณ
เมื่อคุณรักใครสักคน มากเสียจนแน่ใจว่า เขา/เธอเป็นดั่งลมหายใจของคุณ แน่ล่ะ ความศรัทธาอย่างแน่วแน่ต่อความรักที่คุณทั้งสองมีต่อกัน ย่อมยิ่งใหญ่จนบดบังอุปสรรคทั้งหลาย ที่อาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้าได้ แต่คุณจะทำอย่างไร เมื่อคุณเกิดหายใจไม่คล่องคอทุกครั้งที่คนรักต้องเผชิญหน้ากับคนในครอบครัวของคุณ ก็เมื่อคุณรักเขา/เธอ คุณย่อมทรมานใจกับปัญหานี้อย่างแน่นอน ครั้นจะให้เลือก คุณจะเลือกได้อย่างไรในเมื่ออีกฝ่ายหนึ่ง คือ พ่อแม่ ผู้ให้ชีวิตคุณกับพี่น้องผูกพันคุณด้วยสายเลือด ส่วนอีกฝ่ายก็คือ คนที่คุณต้องการใช้ชีวิตร่วมกับเขา/เธอ ตราบจนวันที่คุณหมดแรงจะหายใจ
ดังนั้น ก่อนเหตุการณ์ที่จะสร้างความอึดอัดใจแก่คุณเริ่มก่อตัวขึ้น คุณควรหาวิธีประนีประนอมให้ทั้งสองฝ่ายปรองดองกันให้ได้เสียก่อน ที่จะคิดถึงเรื่องการจัดงานแต่ง
บอกอย่างไรดีว่าจะแต่งแล้ว
เมื่อคุณทั้งคู่แน่ใจแล้วว่า อยากใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกันก็ถึงคราวที่คุณต้องเดินเข้าไปแจ้งข่าวดีนี้ให้แก่ญาติผู้ใหญ่ของคุณทั้งคู่รับรู้แล้วล่ะ แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างจะเดินดุ่มๆ เข้าไปบอกพ่อแม่เอาดื้อๆ ว่าจะแต่งงานแล้ว คงไม่ใช่วิธีการที่ดีนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่พ่อแม่คุณยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาคนรักของคุณมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นทางพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงอาจมองได้ว่าคุณผู้ชายไม่ให้เกียรติเขา แล้วพาลจะไม่ยอมยกลูกสาวให้ ทีนี้ล่ะ งานยาว
คุณทั้งสองควรเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าญาติผู้ใหญ่ของคุณทั้งสองฝ่ายยังไม่เคยพบเห็นว่าที่ลูกเขย/ลูกสะใภ้ของท่านเลย คุณก็ควรเริ่มต้นด้วยการพาคนรักของคุณไปทานข้าวที่บ้านในวันหยุด เพื่อให้ท่านคุ้นตาสัก 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นก็ลองถามไถ่เอาดูซิว่า พ่อแม่คุณ คิดอย่างไรกับเขา/เธอของคุณ ถ้าท่าทางดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในครั้งหน้า หลังจากทานอาหารเสร็จ ระหว่างจิบกาแฟพูดคุยกันในเรื่องทั่วๆไป คุณก็หาโอกาสแจ้งข่าวดีนี้ให้ท่านทราบ รับรองว่าราบรื่น ถ้ามีปัญหาก็ไม่หนักหนาเท่ากับที่คุณต่างฝ่ายต่างจะไปพูดเองหรอกค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องเริ่มจากญาติผู้ใหญ่ของทางฝ่ายหญิงก่อนนะคะ เพราะนอกจากเป็นการให้เกียรติแก่ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายหญิงแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายคุณผู้ชายด้วยว่า จะไม่ถูกปฏิเสธกลับมาในวันที่ไปสู่ขอลูกสาวเขาให้กับลูกชายตัว
Likes