Share this with friends
Mar
01
ขอบคุณ คุณดิฟ บอยสเก๊าท์ ที่ให้เราโอกาสจัด Cocktail แสนอร่อยให้แขกผู้มีเกียรติ ในงานมงคลสมรส
โปรโมชั่น 99,999 สถานที่จัดงานแต่งงาน พร้อมโต๊ะจีน บุฟเฟ่ หรือ ค็อกเทล 100 ท่าน 99999 โทรเลย 083-5555902 , หรือ 085-3666690
คุณดิ๊พ – ทรงพล คล้ายพงษ์พันธ์” หรือที่รู้จักกันในนาม “ดิ๊พ บอยสเก๊าท์” วัย 39 ปี และแฟนสาว “โดนัท – ริณดา สิงห์ลำพอง” วัย 21 ปี ถึงแม้จะมีอายุห่างกันมากถึง 18 ปี แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคบนเส้นทางความรัก โดยทั้งคู่ได้จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ตามประเพณีไทยที่บ้านของเจ้าสาว เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 ก่อนที่จะมีพิธีฉลองมงคลสมรสในวันที่ 1 มีนาคม 2558 ณ ห้องดิบางกอก อบอวลไปด้วยความชื่นมื่น ทั้งมีญาติผู้ใหญ่ เพื่อนพ้องที่มาร่วมแสดงความยินดีโดยพร้อมเพรียง ซึ่งคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันได้ออกมาให้สัมภาษณ์ความรู้สึกที่มีในวันพิเศษนี้
ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง
ดิ๊พ “เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นมากเลยนะฮะ จริงๆ ยังคุยกับโดนัทเขาอยู่เลยว่า ในชีวิตคงไม่ได้มีอะไรเครียดขนาดนี้นะครับ เพราะว่างานแต่งงานนี้เราตั้งใจทำมาก พรูฟงานเอง ตั้งใจอยากจะให้เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนที่มาในงานประทับใจที่สุด โดยเฉพาะเจ้าสาว เขาก็ตั้งใจกับวันนี้มากนะครับ ผมก็ตั้งใจมาก ก็ขอบคุณทุกๆ คนนะครับ ที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทุกอย่างเลยนะครับ ขอบคุณมากจริงๆ ไม่รู้จะพูดขอบคุณใคร เพราะว่ามันเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเลยครับ”
เล่าถึงบรรยากาศงานหมั้นงานแต่งที่จัดไปก่อนหน้านี้
ดิ๊พ “วันที่ 22 เป็นการจัดงานแบบเขาเรียกว่าพิธีแต่งพิธีหมั้นแบบไทยๆ ซึ่งจริงๆ ถ้าโดยทั่วๆ ไปเขาจะทำกันวันเดียวใช่ไหมฮะ แต่ว่าพอดีดิ๊พต้องทำวันที่ 22 เพราะว่ามันเป็นฤกษ์ที่ดีนะครับ แล้วพอดีโรงแรมได้วันที่ 1 ด้วย เราก็เลยต้องแยกกันนิดหน่อย แต่ส่วนวันที่ 22 ก็จะเป็นแบบเพื่อนสนิท แล้วก็ญาติผู้ใหญ่จริงๆ”
โดนัท “แบบอบอุ่นกันในครอบครัวค่ะ”
ดิ๊พ “ทำที่บ้านเล็กๆ น่ารักๆ ครับ บรรยากาศในวันนั้นก็ชื่นมื่นครับ ซึ้ง ผมว่าเขาจะร้องวันนี้แหละฮะ วันนั้นก็ไม่ได้ฟูลเฟรมเท่าไร แต่วันนี้ฟูลมาก”
รูปแบบของงานเป็นอย่างไร
ดิ๊พ “คือธีมงานในวันนี้นะครับ ก็เป็นการรวมรุ่นของเพื่อนๆ แล้วก็พี่ๆ ในอาร์เอสนะครับ ก็บอกแล้วนะครับ ว่าถ้าใครสะดวกก็มา ใครไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ แต่จะจำไว้นะฮะ (หัวเราะ) วันนี้ก็เป็นรวมพี่ๆ ครับ แล้วก็เพื่อนๆ ยุค 90 ของ อาร์.เอส. โปรโมชั่น นะครับ แล้วก็ธีมงานก็จะเป็นอย่างที่เราบอก เราเป็นนักร้องกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวดดิ้งอันนี้ การแต่งงานนี้จะเป็นเวดดิ้งคอนเสิร์ต น้องโดนัทเขาก็จะร้องเพลงผมก็จะร้องเพลงไปด้วย โชว์เพลงเสร็จปุ๊บ หลังจากนั้นตัดเค้กเสร็จก็มีเซอร์ไพรส์ เป็นเพลงบรรยากาศ 2 ชั่วโมงครึ่งให้พี่ๆ ได้หวนนึกถึงความหลังเก่าๆ กันครับผม”
คิดรูปแบบงานกันเองด้วย
ดิ๊พ “คิดเองหมดเลยครับ”
โดนัท “พรีเซนเทชันก็ทำเองค่ะ”
ดิ๊พ “ไปด้วยกันสองคน ไปถ่ายญี่ปุ่น ไปถ่ายสังขละ (สังขละบุรี) คนเขาบอกว่า โอ้โหนี่เหมือนยกกองถ่ายกันไปถ่าย บอกทำอยู่แค่สองคน เอาขาตั้งถ่ายผ่านไหล่ ผ่านหน้า ซูมไป เพราะเราทำได้ เรารู้ไง ออกมาเหมือนหนังสั้นเรื่องหนึ่ง คนบอกว่าเหมือนยกกองไปถ่าย แต่จริงๆ ไม่ใช่ ทำกันอยู่แค่สองคน”
โดนัท “พอมันหวนกลับมาดูแล้วเราก็รู้สึกภูมิใจว่าเราลุยกันมาขนาดนี้ ถ่ายกันเอง ทำอะไรกันเองหมดเลย นี่ถ้าจัดดอกไม้เป็น จัดเองแล้วนะ”
จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม
ดิ๊พ “จดครับ จดเรียบร้อยแล้วครับผม ตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นสามีภรรยากันแบบถูกต้องสมบูรณ์แบบอย่างที่สุดเลยนะฮะ”
เจ้าสาวเป็นอย่างไรบ้าง
โดนัท “ตื่นเต้นค่ะ แล้วก็เราภูมิใจว่าเราจัดงานออกมาค่อนข้างที่จะโอเค เพราะว่าได้พี่ๆ ที่น่ารักทุกคนช่วยเหลือเราเต็มที่เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชุด เรื่องจัดตกแต่งสถานที่ เรื่องอาหาร เรารู้สึกเหมือนมีพี่น้องเพิ่มขึ้นเยอะมาก เขาช่วยเราแบบจริงๆ แบบเต็มที่เลยกับงานนี้”
ตอนขอแต่งงานเป็นอย่างไร
ดิ๊พ “ตอนขอแต่งงานพอดีไปถ่ายรายการพอดีครับ มีโอกาสไปถ่ายรายการนะครับ ที่ภูทับเบิก อันนี้ก็หลอกล่อเขาไปเพื่อจะไปขอแต่งงานวันนั้น ก็เตี๊ยมกับทีมงานเอาไว้ 2 ปีแล้วมั้ง”
โดนัท “ขอแม่อย่างดี เสร็จสรรพ พอดีแม่เขาไม่ชอบให้ไปต่างจังหวัดค่ะ ก็ไปเตี๊ยมกับแม่เอาไว้ โดยที่โดนัทไม่รู้เรื่อง ก็ยังงงอยู่ว่าทำไมแม่ใจดีจัง”
ดิ๊พ “(หัวเราะ) นี่แหละครับพอเข้ารายการ เราก็แกล้งให้รายการเชิญมาสัมภาษณ์ถึงคนที่ขึ้นมาเที่ยวภูทับเบิกว่าเป็นยังไง อากาศดีไหม อะไรอย่างนี้ แล้วเราก็แกล้งร้องเพลง เล่นเพลงปุ๊บก็หยิบแหวนขึ้นมา นี่เขาไม่รู้เรื่องนะฮะ ตอนนั้นก็เป็นโมเมนต์ขอแต่งงานที่ภูทับเบิกครับผม”
ความรู้สึกหลังจากถูกขอแต่งงาน
โดนัท “ก็ตกใจค่ะ มันก็เป็นความรู้สึกแรกของผู้หญิงทุกๆ คนนะคะ ที่มีผู้ชายคนหนึ่งที่เขายอมสละชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของเขาเพื่อมาขอดูแลเรา แล้วก็อยู่กับเราค่ะ รู้สึกดีเพราะไม่เคยมีใครทำให้ขนาดนี้มาก่อน”
รู้สึกอย่างไรกับการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่
โดนัท “ก็รู้สึกตื่นเต้นนะคะ อีกมุมหนึ่งก็จะรู้สึกอบอุ่น เขาเรียกว่าหายห่วงกับชีวิตครอบครัวไปเยอะ เหมือนเรามีผู้นำครอบครัวเพิ่มเข้ามาให้ที่บ้านค่ะ อีกคนหนึ่ง”
อายุที่ห่างกันมาก มีผลกับการใช้ชีวิตคู่ไหม
ดิ๊พ “ด้วยความต่างของอายุ ผมอ่ะไม่ต่าง ผมไม่เป็นไรหรอก พี่เขาก็บอกว่าดีนะแต่งงานกับคนอายุน้อยไม่ต้องมีเมียน้อย (หัวเราะ) มีเมียเด็กเลยทีเดียว โดยปกติก็เป็นตัวของตัวเอง เด็กลงอย่างนี้ตลอดอยู่แล้วนะ ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ห่างกับเขาเท่าไร เพียงแต่ว่าในมุมมองหรือประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตบางอย่าง เขาอาจจะยังตัดสินใจไม่ค่อยได้ดีก็ต้องพึ่งเราในเรื่องของการตัดสินใจ แต่ว่าลักษณะที่เขาดูแลตัวเอง ความคิด การใช้ชีวิต เขาค่อนข้างโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มันก็เลยเหมือนว่ามาประสานกันได้”
โดนัท “ตั้งแต่เจอเขาครั้งแรก ญาติทุกคน คุณยาย คุณแม่ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเหมือนพ่อนัทมาก คือเหมือนป๊าทุกอย่าง แม้แต่เกิดวันจันทร์ด้วยกัน กินอาหารหรือว่าการใช้ชีวิต หรือว่าหน้าตา เสียงหัวเราะ คือทุกอย่างเหมือนกันทุกอย่าง เหมือนก๊อปปี้ออกมา บางทีเราก็แอบคิดลึกๆ ว่า อ๋อ คนนี้แหละมั้งที่ป๊าส่งมาให้อะไรแบบนี้ คือเขาเหมือนเขามาแทนหัวหน้าครอบครัว คือนัทพูดแล้วก็จะร้องไห้ ก็คิดถึงป๊า แต่พอมองเห็นพี่เขาก็เหมือนเราอยู่กับป๊าเลย”
ดิ๊พ “คือบางทีโลกมันกลมนะครับ เขาอาจจะเดินสวนกับเรา แต่เราไม่รู้ว่าอันนี้แหละคือคู่ชีวิตของเรา เขาไปแคสต์ที่อาร์เอส ตอนนั้นผมอาจจะออกอัลบั้มชุดแรกอยู่แล้วเดินสวนกันก็ได้ ไม่ใช่ชุดแรก ต้องชุดประมาณแถวๆ เด็กระเบิดแล้วมั้ง แต่ว่าอันนั้นก็คือไม่ได้รู้จักกัน เขาก็บอกว่าเขาก็ไปแคสต์นะ ไปแคสต์ที่อาร์เอส อาจจะมีโมเมนต์ที่เดินผ่านกัน แล้วเราไม่ได้สนใจ”
มารู้จักกันจริงจังตอนไหน
ดิ๊พ “มารู้จักกันจริงจังนี่ คือโดนัทเขาเป็นนักร้อง ร้องเพลงอยู่ที่ร้านผม ที่ผมดูแลอยู่ แล้วก็วันนั้นพอดีเขามาร้องแทน แล้วเราต้องเข้าร้านไปดูว่านักร้องที่มาร้องแทนเป็นไงบ้าง ร้องดีไหม เพราะว่ามันเป็นหน้าที่ของผมนะ ก็โอเค ร้องดีนะ ก็เลยบอกนักดนตรีว่าคนนี้ร้องประจำเลยก็ได้ เพราะลุกส์เขาก็โอเค พอร้องไปร้องมา อยากได้นักร้องขึ้นไปบนเวทีสเตจใหญ่ กำลังหานักร้องอยู่ ก็ลองปรึกษาเขาดูว่าเขาพอจะร้องได้ไหม อันนั้นแหละคือจุดเริ่มต้นที่เราได้เริ่มคุยกันมากขึ้น เริ่มรู้จักกันมากขึ้น พอมันเริ่มรู้จักกันไป คุยกันไป ปรึกษากันไป คราวนี้แหละมันเข้าทางเลย (หัวเราะ)”
ดิ๊พ ดูแล โดนัท อย่างไร
โดนัท “ดูแลดีมากค่ะ อันดับแรกเลยคือนัทมั่นใจว่าเขารักนัทมาก ส่วนเรื่องอื่นๆ จะเป็นนัทดูแลพี่ดิ๊พมากกว่า”
โดนัท เตรียมตัวเป็นแม่ศรีเรือนเต็มตัวหรือเปล่า
โดนัท “ก็ช่วยกันทำค่ะ พอดีพี่ดิ๊พเขาก็เป็นคนที่ทำงานบ้านเองอยู่แล้ว เราก็ช่วยๆ กัน แต่พี่ดิ๊พจะชอบทำกับข้าว โดนัทก็จะเป็นคนที่ตื่นทีหลังแล้วลงมากิน สวยๆ ไว้”
เรียกว่า ดิ๊พ มีความเป็นพ่อบ้านสูง
ดิ๊พ “สูงครับ เป็นคนชอบสะอาด แล้วก็ชอบทำอาหาร”
วางแผนชีวิตหลังแต่งงานไว้อย่างไร
ดิ๊พ “แพลนชีวิตหลังแต่งงานก็คือเต็มที่ครับ เต็มที่กับชีวิตแน่นอน ใส่เกียร์เดินหน้าแบบเกียร์สิบเลย ก็คือโปรดักต์ที่เราวางไว้ เรื่องธุรกิจหลายๆ ตัวนะครับ ก็ลงทุนทำกันเต็มที่เลย แต่ว่าพอดีช่วงนี้บอกตรงๆ ว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากงานแต่งงาน มันยุ่งมากอย่างเดียวเลย แล้วก็เหมือนว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปมันก็จะมีแต่ความสุข ความสุขที่วันนี้เราจะได้เจอพี่ๆ เพื่อนๆ ที่น่ารักทุกๆ คน มันก็ทำให้เรามีความสุข รวมทั้งญาติผู้ใหญ่ จากวันนี้ไปแล้ว พรุ่งนี้มันเหมือนเริ่มต้นชีวิตใหม่ เราต้องทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด สมกับที่ทุกคนเขามาให้กำลังใจเรา ณ วันนี้นะครับ”
คิดเรื่องมีทายาทหรือยัง
ดิ๊พ “เรื่องน้องเหรอครับ เรื่องน้องก็น่าจะสัก 2 ปี ขอไปเที่ยวกันก่อนนะฮะ ถ้ามีโอกาสดีเมื่อไร โปรดักต์เรียบร้อยเมื่อไรก็อาจจะ”
โดนัท “แต่ก็ต้องระมัดระวังนิดหนึ่ง เพราะว่าเราอยากได้ลูกผู้หญิงกัน ก็คงต้องทำให้เป็นเรื่องเป็นราวนิดหนึ่งค่ะ”
ดิ๊พ “คือตั้งใจอยากให้เป็นลูกผู้หญิงจริงๆ”
ต้องพึ่งวิธีทางวิทยาศาสตร์หรือเปล่า
ดิ๊พ “ก็มีบ้าง อะไรนิดหนึ่ง ปรึกษาเพราะว่าเพื่อนก็คัดเพศเหมือนกัน เพื่อนก็คัดเพศมา เขาอยากได้ลูกผู้หญิงก็ได้ลูกผู้หญิงจริงๆ”
ทำไมถึงอยากได้ลูกผู้หญิง
โดนัท “ชอบเด็กเรียบร้อยค่ะ”
วางแผนมีกี่คน
ดิ๊พ “คนเดียวครับ แหมมีอะไรเยอะแยะ (หัวเราะ) เรื่องของอนาคต อันดับแรกขอสักคนหนึ่งก่อนดีกว่า”
จะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่ไหน
โดนัท “ใกล้ๆ พัทยา”
ดิ๊พ “ใกล้ๆ ครับ พัทยาครับ เพราะผมหลังจากนี้งานก็ยังรออยู่อีกเต็มเลย”
โดนัท “คือเราไปเที่ยวแบบปิดมือถือค่ะ ไปเที่ยวคือนอนอย่างเดียว พักผ่อน ชาร์ตพลัง อ่านหนังสือ เติมพลังให้กับชีวิต”
ดิ๊พ “คือผมชอบอ่านหนังสือมาก แล้วไม่มีเวลาแม้กระทั่งหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หนังสืออันไหนอยากอ่านกองอยู่บ้านเต็มเลย มันเหมือนพลังชีวิตมันหายถ้าเราไม่ได้อ่านหนังสือครับ เพราะฉะนั้นก็อยากจะมีเวลาที่อยู่เฉยๆ ปิดมือถือ แล้วก็อ่านแต่หนังสือ”
จะไปกันเมื่อไร
ดิ๊พ “พรุ่งนี้ (2 มีนาคม 2558) ก็ไปเลยฮะ”
สินสอดและเรือนหอ
ดิ๊พ “สินสอดก็ที่ให้ไปก็ไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไร เป็นตัวเลขเลขคู่สัก 4 แสนครับ เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้มากกว่า ไม่ได้ซีเรียสกันเลย”
โดนัท “คือพี่เขารีโนเวทบ้านของโดนัทค่ะ ที่เป็นบ้านของคุณพ่อคุณแม่ ก็รีโนเวทหมดไปเยอะเหมือนกัน ทั้งหลังค่ะ เป็นเรือนหอของเรา แล้วก็เป็นร้านนวดหน้าค่ะ ที่พวกเราทำกันเป็นธุรกิจครอบครัวค่ะ”
ความประทับใจซึ่งกันและกัน
ดิ๊พ “อย่างแรกที่ประทับใจมากที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องที่เขารักเรามาก เขาทำให้เราเห็นว่าเขาจริงใจที่อยากจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตนะครับ แล้วก็ประทับใจในเรื่องของความตั้งใจในการที่จะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ตรงนี้ผมว่าเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดสำหรับการมีภรรยานะฮะ ถ้าเราอยู่กับคนที่มัวแต่แต่งตัวหรือว่ามัวแต่เที่ยวเตร่ ผมว่าชีวิตมันน่าจะไปลำบาก”
โดนัท “หลักใช้ชีวิตของนัท ข้อหนึ่งคือนัทก่อนจะนอน นัทจะคิดเสมอว่าถ้าพรุ่งนี้นัทตาย วันนี้นัททำอะไรแล้วหรือยัง นัทจะคิดตลอดว่าถ้าพรุ่งนี้นัทไม่มีพี่ดิ๊พแล้ว ที่ผ่านมาโดนัททำดีกับพี่ดิ๊พหรือเปล่า นัทจะคิดอย่างนี้ตลอด เพราะนัทกลัว กลัวว่าวันหนึ่งจะไม่มีเขาอยู่ แล้วนัทอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นนัทต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขาในวันนี้”
คำมั่นสัญญาที่ให้กัน
ดิ๊พ “ก็มีครับ บอกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็จะจับมือกันอย่างนี้ตลอดไป ดูแล แล้วก็ไม่ปล่อยมือกันแน่นอนนะฮะ”
ของชำร่วยในงานเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ได้มีมอบให้ แต่เปลี่ยนเป็นการเชิญชวนผู้ที่มาร่วมงาน ให้มาร่วมสมทบทุนบริจาคเงินให้กับบ้านพักคนชราบางแค โดยแขกที่มาร่วมงานสามารถร่วมทำบุญด้วยกันได้ เพียงแค่หยอดหัวใจใส่ขวดโหล ซึ่งหัวใจ 1 ดวง มีมูลค่าเท่ากับ 59 บาท สำหรับเพื่อนพ้องในวงการที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว อาทิ “ปิงปอง – สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ” “โด่ง – สิทธิพร นิยม” “ชิ – อนุชา ลังประเสริฐ” “โชค – โชคชัย เจริญสุข” “นุ๊ก – สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” “โก้ – ธีรศักดิ์ พันธุจริยา” “แหม่ม – พัชริดา วัฒนา” และ “โจ – ธนัท ฉิมท้วม”